
อนิจา...ความจริงเพ่ิงถูกเปิดเผย...เมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อมีอาจารย์ฝรั่ง มาเคาะประตู (เสียดังกว่า นกเคาะนิดหน่อย)เพื่อขอยืมกล้องถ่ายรูป ซึ่งขัดกับกฏ ของห้ามยืมสี่อย่าง นั่นคือ เมีย ปืน ถล้องถ่ายรูป และ
ปากกาคอแร้ง เพื่อจะไปถ่ายรูปนกที่มาเคาะกระจกท่านทุกเช้า
เพื่อจะไปลง Forest Sangha Newsletter
โชคดีที่พระมีแค่กล้องกับปากกาคอแร้ง ก็เลยให้พอจะยืมกันได้ แต่กำชับด้วยกฏเหล็กที่ว่า "ต้องไม่มีรอยขีดข่วนกลับมา" ไม่งั้นตบะพระอาจจะถึงขั้นวิกฤติท่านได้รูปเจ้านกตัวปัญหามา โห...น่ารัก... ตัวเค้าเล็กกระจิดริ๊ด เป็นนกที่เล็กที่สุด
ของประเทศอังกฤษ แต่..ท่าเค้าน๊ะ..ฮื๋อ อย่าให้พูดวางก้าม...เชิ๊ด...หยิ่ง...ไม่กลัวใคร...
น่าหมั่นไส้แลน่ารักเป็นหนักหนา ก็เลยทำให้เกิดความสนใจอยู่ทำความรู้จักอยากรู้ว่ามาเคาะกระจกทำไม
ครั้งแรก ๆ ก็ยืนไกล ๆ กลัวนกจะหนี แต่ไม่ได้ภาพที่ถูกใจสั๊กกะที เพราะนอกจากเค้าตัวเล็กแล้ว ยัง
เพื่อจะไปลง Forest Sangha Newsletter
โชคดีที่พระมีแค่กล้องกับปากกาคอแร้ง ก็เลยให้พอจะยืมกันได้ แต่กำชับด้วยกฏเหล็กที่ว่า "ต้องไม่มีรอยขีดข่วนกลับมา" ไม่งั้นตบะพระอาจจะถึงขั้นวิกฤติท่านได้รูปเจ้านกตัวปัญหามา โห...น่ารัก... ตัวเค้าเล็กกระจิดริ๊ด เป็นนกที่เล็กที่สุด
ของประเทศอังกฤษ แต่..ท่าเค้าน๊ะ..ฮื๋อ อย่าให้พูดวางก้าม...เชิ๊ด...หยิ่ง...ไม่กลัวใคร...
น่าหมั่นไส้แลน่ารักเป็นหนักหนา ก็เลยทำให้เกิดความสนใจอยู่ทำความรู้จักอยากรู้ว่ามาเคาะกระจกทำไม
ครั้งแรก ๆ ก็ยืนไกล ๆ กลัวนกจะหนี แต่ไม่ได้ภาพที่ถูกใจสั๊กกะที เพราะนอกจากเค้าตัวเล็กแล้ว ยัง
เป็นนก "ไฮเปอร์" พระก็เลย หากระจกส่องหน้า ที่ใสและชัดกว่าไปตั้งไว้ให้ ผลที่ได้ก็ ก็คือจากที่ต้องมองไกล ๆ ก็ ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ได้..แล้วก็ใกล้....แล้วก็ใกล้เข้าไปอีก จนถึงขนาดว่า ใกล๊ ใกล้...ใกล้ขนาดว่ามือจับได้ รู้สึกว่าเราทั้งสองจะมีคอนเน็คชั่นที่ดี
นกไฮเปอร์เจอพระขี้สงสัย ก็เลยได้ความมาว่า โยมนกเค้ามาส่องกระจกเห็นเงาในกระจกแล้วก็บินไป ตีไป จิก ป๊อก ๆ ๆ ๆ แค่นั้นยังไม่พอ ยังบินว่อน ร่อนหาทางจะเข้าไปดู ให้หายสงสัยอีกว่าใครมาเลียนแบบท่าทาง ด๊อกแด๊ก ด๊อกแด๊ก ที่เค้าแสดงอยู่ จิกไป ก็ปล่อยของเสีย ปูด ๆ ปาด ๆ รดกระจกไป...ไม่รู้จะเจ็บปาก เจ็บปีกบ้างหรือเปล่า?
และเท่าที่สังเกตุ นอกจากจะไฮเปอร์แล้ว ยังดูท่าว่า ทิฏฐิกล้าไม่น้อย เพราะมาได้ทุ๊กวัน
ทั๊งวัน...บินไปที่อื่นสักแป๊บ อ้าว...เดี๋ยวมาจิกอีกแล้ว คิดไปอีกทีก็เหมือนชอบกระจกที่พระเตรียมให้เป็นหนักหนา ยังก๊ะว่าจะเป็นจะตาย ถ้าไม่ได้มาจิก ไม่ได้มา บินไปเรียกเพื่อนมา เพื่อนเค้าก็ไม่มา แต่ดูเท่าที่สังเกตุดูแล้วคงจะยังไม่ใช่ celebrity bird เพราะยังตื่นกล้องอยู่

จากที่ถาม เนทีฟ พระเณร ท่านบอกว่า "อิท อิีสซึ่น คอมม่อน เบิร์ด อิน อิงแลนด์" แต่...เพราะจากประสบการณ์ ที่ไม่มีเซอร์ติฟิเคทรับรอง สอนไว้ว่า ให้ฟังหู ไว้หู อย่าไปเชื่ออะไรง่าย แม้จะมี เทนเดนซี่ ไปในเชิงหูเบา และใจง่าย กับถ้อยคำที่หวานไพเราะ สะ-เหนาะ รูหู
ทั้งที่รู้ว่า "it isn't from one hearth" แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี ระริ๊กระรี๊ เหมือน
นกไฮเปอร์เจอพระขี้สงสัย ก็เลยได้ความมาว่า โยมนกเค้ามาส่องกระจกเห็นเงาในกระจกแล้วก็บินไป ตีไป จิก ป๊อก ๆ ๆ ๆ แค่นั้นยังไม่พอ ยังบินว่อน ร่อนหาทางจะเข้าไปดู ให้หายสงสัยอีกว่าใครมาเลียนแบบท่าทาง ด๊อกแด๊ก ด๊อกแด๊ก ที่เค้าแสดงอยู่ จิกไป ก็ปล่อยของเสีย ปูด ๆ ปาด ๆ รดกระจกไป...ไม่รู้จะเจ็บปาก เจ็บปีกบ้างหรือเปล่า?
และเท่าที่สังเกตุ นอกจากจะไฮเปอร์แล้ว ยังดูท่าว่า ทิฏฐิกล้าไม่น้อย เพราะมาได้ทุ๊กวัน
ทั๊งวัน...บินไปที่อื่นสักแป๊บ อ้าว...เดี๋ยวมาจิกอีกแล้ว คิดไปอีกทีก็เหมือนชอบกระจกที่พระเตรียมให้เป็นหนักหนา ยังก๊ะว่าจะเป็นจะตาย ถ้าไม่ได้มาจิก ไม่ได้มา บินไปเรียกเพื่อนมา เพื่อนเค้าก็ไม่มา แต่ดูเท่าที่สังเกตุดูแล้วคงจะยังไม่ใช่ celebrity bird เพราะยังตื่นกล้องอยู่

จากที่ถาม เนทีฟ พระเณร ท่านบอกว่า "อิท อิีสซึ่น คอมม่อน เบิร์ด อิน อิงแลนด์" แต่...เพราะจากประสบการณ์ ที่ไม่มีเซอร์ติฟิเคทรับรอง สอนไว้ว่า ให้ฟังหู ไว้หู อย่าไปเชื่ออะไรง่าย แม้จะมี เทนเดนซี่ ไปในเชิงหูเบา และใจง่าย กับถ้อยคำที่หวานไพเราะ สะ-เหนาะ รูหู
ทั้งที่รู้ว่า "it isn't from one hearth" แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี ระริ๊กระรี๊ เหมือน
ปลากระดีตกน้ำ
ก็เลยค้น Wikipedia ได้ความว่า โยมนก(ไฮเปอร์)ชื่อว่า Goldcrest แปลไทยว่า (น้อง)หงอนทอง เป็นนกที่มีอยุ่ดาดดื่น แต่เพราะตัวเล็กก็เลยมองไม่ค่อยเห็น นกชนิดเดียวแบบน้องหนู (ไม่รู้ว่าตัวผู้ หรือตัวเมีย) ก็มีเยอะ แต่ไม่ไม่มีตัวไหน สนใจกระจกแบบนี้
และจากที่เฝ้าดูอยู่นอกสวนของวัดติดต่อกันเป็นอาทิตย์ ๆ จึง รี-อะ-ไลส์-ด์ (realised) ว่า อยู่วัดอมรวดีนี่ ไม่เงียบเลย เสียงแจ๊กแจ๊ก จอแจ ไม่ว่าจะเป็นนกเล็ก นกน้อย ไก่ฟ้า นกกระยาง เป็ด
ก็เลยค้น Wikipedia ได้ความว่า โยมนก(ไฮเปอร์)ชื่อว่า Goldcrest แปลไทยว่า (น้อง)หงอนทอง เป็นนกที่มีอยุ่ดาดดื่น แต่เพราะตัวเล็กก็เลยมองไม่ค่อยเห็น นกชนิดเดียวแบบน้องหนู (ไม่รู้ว่าตัวผู้ หรือตัวเมีย) ก็มีเยอะ แต่ไม่ไม่มีตัวไหน สนใจกระจกแบบนี้
และจากที่เฝ้าดูอยู่นอกสวนของวัดติดต่อกันเป็นอาทิตย์ ๆ จึง รี-อะ-ไลส์-ด์ (realised) ว่า อยู่วัดอมรวดีนี่ ไม่เงียบเลย เสียงแจ๊กแจ๊ก จอแจ ไม่ว่าจะเป็นนกเล็ก นกน้อย ไก่ฟ้า นกกระยาง เป็ด
ป่า (ซึ่งมารักษาดุลย์ ของปลา และกบที่สระน้ำข้างกุฏีหลวงพ่อ) กระรอก พลุกพล่านขวักไข่ว (ยังก๊ะหมาวัด หลวงตามอด) และตัวแบ๊ดเจ้อ.. ข้างๆ วัดก็จะมีบ๊ากกิ้
งเดียร์ (บ้านเราคงเรียกฟาน) ชนแย่งตัวเมียกัน ถ้าตั้งสติไม่ทัน
ก็นึกว่าผีหลอกขณะนี้ โกบอล วอร์มิ่ง กำลังเป็นข่าวใหญ่ อีกไม่นานคงจะได้ ยุง ตะขาบ กิ้งกือ งู มด และตัวปลวก มาเป็นสมาชิก เหมือนวัดป่านานาชาติ
ความจริงปรากฏ พระก็หูตาสว่าง
อนิจจา วะตะสัง ขารา...อุตสาห์หลงตัวว่า มีเมตาบารมี ที่ไหนได้นกมาเคาะเพราะ หลงกระจก หาได้หลงเสน่ห์พระไม่...โยมนกเคาะไปทั่วทุกห้องที่มีเงาสะท้อน "poor me เป็นตาซิโตน เด๊"
หลวงตาฝรั่งก็เลยแนะนำว่า เราน่าจะหาอะไรมากันกระจกไว้ นกจะได้ไม่เสียสัญชาติญาณ แต่..เซ่กั้นหลวงตา และหลวงพี่บอกว่า ปล่อยไปอีกสักพัก เดียวนก็เบื่อก็หนีเราไปเอง เพราะนกลักษณะแบบนี้ จะไม่สนใจอะไรนาน

อนิจจา วะตะสัง ขารา...อุตสาห์หลงตัวว่า มีเมตาบารมี ที่ไหนได้นกมาเคาะเพราะ หลงกระจก หาได้หลงเสน่ห์พระไม่...โยมนกเคาะไปทั่วทุกห้องที่มีเงาสะท้อน "poor me เป็นตาซิโตน เด๊"
หลวงตาฝรั่งก็เลยแนะนำว่า เราน่าจะหาอะไรมากันกระจกไว้ นกจะได้ไม่เสียสัญชาติญาณ แต่..เซ่กั้นหลวงตา และหลวงพี่บอกว่า ปล่อยไปอีกสักพัก เดียวนก็เบื่อก็หนีเราไปเอง เพราะนกลักษณะแบบนี้ จะไม่สนใจอะไรนาน
เวลาผ่านไปไม่นานนัก....(อึไม่ทันหายเหม็น) ผลออกมาว่า...หายจ้อยไปแล้วน้องนก
ไม่นานเกินความคาดหมาย....เป็นไปตามกฏของ ความเป็นจังซั่น ของสภาวธรรม (Natural Phenomenon)
บินหนีไปเสียแล้ว...คงจะบ่น ออด ๆ ว่า เจ็บปาก เจ็บปีก ไม่รู้จะจิก จะตี ไปทำไม หรือไม่ก็จะบอกเพื่อนว่า พระเอากระจกมาหลอ ไม่ว่านกจะคิดอย่างไร หรือ บ่นอย่างไร ยังไงพระก็ยังปราถนาว่า
"ขอให้โชคดี มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง
ถ้าบวชก็ให้เป็น ขลัวเจ้าวัด
เป็นคหัส ก็ให้เป็นเจ้าคน นายคน
ให้ได้เมียคนรู้ให้ได้ชู้คนงาน เน้อ นกเน้อ..."
เป็นคำให้พรขอ ย่า ที่ย่าจะให้ทุกครั้งเวลาไปหาสมัยเด็ก ๆ
ถ้าบวชก็ให้เป็น ขลัวเจ้าวัด
เป็นคหัส ก็ให้เป็นเจ้าคน นายคน
ให้ได้เมียคนรู้ให้ได้ชู้คนงาน เน้อ นกเน้อ..."

เป็นคำให้พรขอ ย่า ที่ย่าจะให้ทุกครั้งเวลาไปหาสมัยเด็ก ๆ
No comments:
Post a Comment